นครพนม

ธาตุพนม “ซิตี้ ออฟ อาร์ต”

17 กรกฎาคม 2025
|
440 อ่านข่าวนี้
|
0



ธาตุพนม “ซิตี้ ออฟ อาร์ต” ศิลปะขับเคลื่อนบ้านเมือง


“ ผมชอบหนังเรื่อง City of God (ซิตี้ ออฟ ก็อด) ตอนที่รวมกลุ่มคนที่ทำงานศิลปะที่ธาตุพนม เลยนำชื่อหนังเรื่องนี้มาใช้กลายเป็น ธาตุพนม ซิตี้ ออฟ อาร์ต ” บูม จารุพัฒน์ พงษ์เลิศหิรัญ หนุ่มอาร์ตติสวัย 34 หัวหอกของกลุ่ม เริ่มต้นเล่าถึงที่มาของสิ่งที่พวกเขาคิดและลงมือทำให้เราฟัง ปัจจุบันกลุ่ม ธาตุพนม “ซิตี้ ออฟ อาร์ต” ประกอบไปด้วย 3 หนุ่ม 3 มุม ก็คือ “บูม” จารุพัฒน์ พงษ์เลิศหิรัญ “อ้น” วิรุฬห์ หนูห่วง และ“เอ็ม” ชัยวัฒน์ โพธิตะนัง




กราฟฟิค / ถ่ายภาพ / งานปั้น 

รวมกันเป็น ธาตุพนม “ซิตี้ ออฟ อาร์ต”

ในกลุ่มธาตุพนมซิตี้ ออฟ อาร์ต ประกอบไปด้วยงานด้านดีไซน์และกราฟฟิค ซึ่งในส่วนนี้ “บูม” จะเป็นเสมือนผู้รับผิดชอบหลัก ในด้านงานภาพถ่ายสายสารคดี สายสตรีท ก็จะเป็นส่วนที่ “อ้น” เป็นผู้ดำเนินกิจกรรม ในส่วนของงานปั้นลายไทย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “เอ็ม” ผู้ซึ่งเรียนจบด้านปฏิมากรรมไทยโดยตรง

“ คุณแม่ ผมเป็นคนธาตุพนม แต่ผมไปโตอยู่กรุงเทพฯ ก็มีไปๆ มาๆบ้าง แต่ที่ได้กลับมาอยู่จริงๆ ก็เป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 ครับ ” บูม เล่าพื้นหลังของตัวเอง ที่อาจจะมีแตกต่างจากเพื่อนคนอื่นในกลุ่ม ซึ่งเกิดและเติบโตที่ธาตุพนม

“ ผมเกิดและโตที่นี่(อ.ธาตุพนม) เลย ปัจจุบันกับสมัยก่อนที่ผมเด็ก แตกต่างกันเยอะ ทั้งองค์พระธาตุ ทั้งแม่น้ำโขง ทั้งชุมชนเอง เรียกว่าทุกอย่างเลยดีกว่า ”อ้น ในฐานะคนธาตุพนมและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ตลอด ย้อนภาพให้เห็นความต่างของเมืองที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา

“ผมก็เกิดและโตที่ธาตุพนมนี่เลยครับ มีแค่ช่วงเรียนที่เพาะช่างกับทำงานได้ปีหนึ่งที่กรุงเทพฯ เบื่อรถติด เลยกลับบ้าน ภาพจำในวัยเด็กของผม คือ ความสงบ ประเพณีและพวกวัฒนธรรมที่ผมได้ตามพ่อไป ”เอ็ม เล่าขยายความเกี่ยวกับความเงียบสงบ และเมืองแห่งประเพณีวัฒนธรรมธาตุพนม




สตรีทอาร์ต จุดเช็คอินน์ใหม่ ในธาตุพนม

การเกิดขึ้นของธาตุพนม ซิตี ออฟ อาร์ต ถ้านับช่วงเวลาก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในช่วงหลังโควิด-19 นี่เอง และอย่างที่เกริ่นนำไปว่าหัวหอกคนสำคัญของเรื่องนี้ก็คือ “บูม” ซึ่งเขาได้นำประสบการณ์จากการทำแกลลอรี่ศิลปะที่กรุงเทพฯมาประยุกต์ใช้กับเมืองธาตุพนม

“ ที่กรุงเทพฯ ผมเคยเอางานศิลปะของเพื่อนๆ น้องๆ ที่ทำธีสิสจบ มาแสดงงาน เห็นว่าทำกันแล้วมักจะไม่ได้ทำอะไรต่อ บางทีก็ทิ้งไป แต่งานมันดีมาก เลยเอางานธีสิสของน้องๆ หลายคนมาแสดงที่แกลลอรี่ในตอนนั้น

พอโควิด-19 ตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านแม่ที่ อ.ธาตุพนม ก็เลยคิดถึงสิ่งที่เคยทำ พอได้มาเจอกับพี่อ้น และเอ็ม ก็เหมือนคนคอเดียวกัน ก็ค่อยๆ เริ่มทำกลุ่มกันขึ้นมา ”

“บูม” และ “อ้น” ยังเล่าให้เราฟังต่อด้วยว่า งานแรกที่เริ่มทำในนามกลุ่ม “ธาตุพนม ซิตี้ ออฟ อาร์ต” ก็คือ งานสตรีทอาร์ต โดยพวกเขามีแนวคิดในเรื่องของ “การเปลี่ยนกำแพงเก่ามาเล่าเรื่องใหม่” ซึ่งในท้ายที่สุดก็ได้เป็นจุดเช็คอินน์ใหม่ให้กับเมืองธาตุพนม ได้ทั้งคุณค่าและมูลค่าในเชิงการท่องเที่ยวที่สอดรับกับวิถีชุมชน และยังคงสะท้อนตัวตนบนผลงานทางศิลปะอีกด้วย

โดยพวกเขาก็ได้หยิบจับเอาเรื่องราวอัตลักษณ์ท้องถิ่น ชีวิตผู้คนริมฝั่งโขง ซึ่งสะท้อนมุมมองทางสิ่งแวดล้อมไปในตัว รวมถึงศรัทธาและความเชื่อที่มีต่อองค์พระธาตุพนม มาประกอบสร้างเป็นการนำเสนอเมืองในมุมมองใหม่ตามสไตล์ของพวกเขา  

สำหรับจุดเช็คอินน์สตรีทอาร์ต โดยกลุ่มธาตุพนม ซิตี้ ออฟ อาร์ต มีอยู่ 4 จุด ด้วยกัน จุดแรกอยู่ที่กำแพงถนนริมโขง บริเวณใกล้ๆด่านตรวจคนเข้าเมือง จุดที่สอง เป็นจุดใหญ่มีภาพให้เช็คอินน์หลากหลาย จุดนี้ที่อยู่ที่ถนนวัฒนธรรม จุดที่สามถนนพนมพนารักษ์7 และจุดที่สี่ คือ กำแพงข้างร้าน Drip Color




ต่อยอดสู่การขับเคลื่อนเมือง

อีกกิจกรรมหนึ่ง ซึ่งทางกลุ่ม “ธาตุพนม ซิตี้ ออฟ อาร์ต” ได้เข้าไปมีส่วนร่วมสำคัญ ได้แก่ กิจกรรมคนเคลื่อนเมือง ที่จัดขึ้นตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมครั้งใหม่ในชื่อว่า “นครคราฟท์” ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งพวกเขาทั้ง 3 ก็จะยังเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของงานดังกล่าวนี้ด้วย “บูม” เล่าทิ้งท้าย ในประเด็นการต่อยอดเหล่านี้ ให้เราฟังได้อย่างน่าสนใจ

“ ตอนนี้เราก็เดินทางกันมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว สำหรับกิจกรรมที่นำศิลปะไปเชื่อมโยงกับผู้คนในชุมชน ตอนนี้ก็คิดเรื่องการต่อยอดให้กับผู้คนในระดับจังหวัด โดยทางกลุ่มเราอาจจะเป็นที่ปรึกษาก็ได้ สำหรับคนที่สนใจ สำหรับคนที่ชอบศิลปะ รวมถึงเราก็อยากสร้างพื้นที่สำหรับการแสดงออกด้านศิลปะให้นครพนมมีมิติที่หลากหลาย และเมืองมันน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

ในส่วนกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ชื่อว่านครคราฟท์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่จะสร้างพื้นที่ทางศิลปะให้กับคนในพื้นที่ เพราะก่อนหน้านี้เราไปชวนเด็กๆ มาร่วมทำกิจกรรมในโปรแกรมปิดเทอมสร้างสรรค์ แล้วก็จะได้นำผลงานเหล่านั้นทั้งด้านภาพถ่าย , กราฟฟิตี้ และงานปั้น มาจัดแสดง นี่เป็นภาพตัวอย่างที่เราอยากสะท้อนให้เห็นว่างานศิลปะในพื้นที่มันยังมีคนมองเห็นอยู่ ”

ในอีกด้านหนึ่งการรวมตัวกันในนามกลุ่ม “ธาตุพนม ซิตี้ ออฟ อาร์ต” นอกจากจะได้สร้างผลงานให้กับคนอื่นแล้วยังสร้างแรงผลักดันให้แก่กันและกันภายในทีมงานเดียวกันอีกด้วย อย่างกรณีของ “เอ็ม” ซึ่งก่อนหน้านี้เคยหมดไฟในการทำงานด้านปฏิมากรรมไปแล้ว แต่หลังจากได้ทำกิจกรรมในนามกลุ่มก็ได้ชุบชูพลังชีวิตให้กลับคืนมาอีกครั้ง

“ เห็นความเปลี่ยนแปลงเยอะในพื้นที่ ตัวเราเองก็เปลี่ยนด้วย ผมได้ทั้งพลัง ได้แรงผลักดันเยอะ เพราะว่าได้รับรู้ว่าในพื้นที่มันยังสนใจ ยังมีคนเห็นงานพวกเราอยู่ ”



0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI