Notifications

You are here

ห่วงโซ่คุณค่า

การทำฟาร์มแบบธรรมชาติแบบทุนต่ำ (Zero Budget Natura...

06 สิงหาคม 2024 534 อ่านข่าวนี้ 3 เดือนก่อน 0
แผนแม่บท : แผนแม่บท การเกษตร  
หมวดหมู่ : #3.2เกษตรปลอดภัย 


การทำฟาร์มแบบธรรมชาติแบบทุนต่ำ (Zero Budget Natural Farming หรือ ZBNF) เป็นวิธีการทำเกษตรที่เน้การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดการพึ่งพาปัจจัการผลิตภายนอเช่น ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง โดยใช้ผลิตภัณฑ์จามูลแลปัสสาวะวัวเป็นหลัก วิธีการนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพดิน เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และผลิตอาหารที่ปลอดภัยแลมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

ZBNF ถูกพัฒนาขึ้นโดย สุภัช ปาเลการ์ (Subhash Palekar) นักเกษตรกรชาวอินเดียในปี พ.ศ. 2538 โดยได้รัแรงบันดาลใจากการทำเกษตรธรรมชาติของ มาซาโนบุ ฟูกูโอกะ (Masanobu Fukuoka) นักเกษตรกรชาวญี่ปุ่น ZBNF เริ่มต้นในรัฐกรณาฏกะ (Karnataka) และขยายไปยังรัฐอานธรประเทศ (Andhra Pradesh) ซึ่งมีการนำไปใช้ในระดับรัเพื่อส่งเสริมการทำเกษตรที่ยั่งยืนและลดปัญหาหนี้สินของเกษตรกร

ปัจจุบัน ZBNF ได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศอินเดีย โดยมีเกษตรกรกว่า 160,000 รายทั่วประเทศที่นำวิธีการนี้ไปปฏิบัติ รวมถึงรัฐอานธรประเทศยัมีเป้าหมายที่จะเป็นรัฐแรกของอินเดียที่ใช้การทำเกษตรแบบธรรมชาติ 100% ภายในปี พ.ศ. 2567

 ZBNF มีหลักการสำคัญ 4 ประการ ได้แก่

  • จีวัมฤต (Jeevamrit)เป็นปุ๋ยน้ำชีวภาพที่ทำจากมูลและปัสสาวะวัว ผสมกับน้ำตาลและดิน ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในดิน
  • บีจัมฤต (Bijamrit) เป็นการเตรียมเมล็ดพันธุ์ด้วยสารละลายจากมูลและปัสสาวะวัว ช่วยในการป้องกันโรคแลส่งเสริการงอกของเมล็ด
  • มัลชิง (Mulching) การคลุมดินด้วยวัสดุธรรมชาติ เพื่อรักษาความชื้นในดิน ควบคุมวัชพืช และป้องกันการชะล้าหน้าดิน
  • การระบายอากาศดิน (Soil Aeration)การระบายอากาศในดิน เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตขอจุลินทรีย์ที่เป็ประโยชน์แลปรับปรุงโครงสร้างของดิน

นอกจากนี้ ZBNF ยังใช้ "อัสทราส" (Astras) หรือสารสกัดธรรมชาติต่างๆ เพื่อควบคุมศัตรูพืช

หลักฐานสนับสนุนประโยชน์ของ ZBNF
จากการทบทวนผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่า มีหลักฐานสนับสนุนประโยชน์ของ ZBNF ในหลายด้าน ดังนี้

  • ด้านผลผลิตงานวิจัยในรัฐอานธรประเทศ (Andhra Pradesh) ประเทศอินเดีย พบว่าการทำ ZBNF ไม่ส่งผลกระทบเชิงลต่ผลผลิในระยะสั้นเมื่อเทียบกับการทำเกษตรแบบทั่วไปและเกษตรอินทรีย์ ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องการสูญเสียผลผลิต
  • ด้านเศรษฐกิจช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร โดยลดการพึ่งพาปัจจัยการผลิตจากภายนอก นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดระหว่างประเทศ ผ่านการผลิตอาหารอินทรีย์คุณภาพสูด้วต้นทุนต่ำ
  • ด้านสิ่งแวดล้อม : ส่งเสริมการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน ผ่านการใช้เทคโนโลยีพื้นบ้าน
  • ด้านความยั่งยืนเป็นวิธีการทำเกษตรที่ะพึ่งพาตนเองได้ และยังสามารถช่วยแก้ปัญหาความมั่นคงทางอาหาร
  • ด้านสุขภาพช่วยผลิตอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ และส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี

วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของ ZBNF

จุดเเข็ง

  • ลดต้นทุนการผลิต : เกษตรกรไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง
  • ปรับปรุงคุณภาพดิน : การใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในดิน รวมถึงจุลธาตุอาหารต่างๆ
  • เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ : การวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรม หรือจีโนม (Genome) พบแบคทีเรียและเชื้อราที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืช
  • ผลผลิตที่ดี : ไม่พบความแตกต่างของผลผลิตในระยะสั้นเมื่อเทียบกับการทำเกษตรแบบทั่วไปและเกษตรอินทรีย์
  • ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม : ลดมลพิษในดินและน้ำจากการใช้สารเคมีทางการเกษตร
  • ผลิตอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง : อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง

จุดอ่อน

  • ต้องใช้เวลา : อย่างน้อย 3-4 ปีในการฟื้นฟูผลผลิตของดินให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
  • ขาดแคลนวัตถุดิบ : การเตรียมปุ๋ยน้ำชีวภาพและเมล็ดพันธุ์เฉพาะ ต้องใช้มูลและปัสสาวะวัว ซึ่งอาจขาดแคลนในบางพื้นที่
  • ต้องการความรู้เฉพาะทาง : เกษตรกรต้องมีความรู้เกี่ยวกับการใช้ปุ๋ยน้ำและการจัดการศัตรูพืชแบบธรรมชาติ
  • ขาดโครงสร้างตลาด : ยังขาดโครงสร้างตลาดที่เหมาะสมสำหรับผลผลิต ZBNF

การปรับใช้ ZBNF กับประเทศไทยสามารถทำได้โดย

  • ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรท้องถิ่น : ใช้วัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นในการเตรียมปุ๋ยน้ำชีวภาพ และเมล็ดพันธุ์ด้วยสารละลายจากมูลและปัสสาวะวัว
  • ฝึกอบรมเกษตรกร : จัดการฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตร ZBNF และวิธีการจัดการวัชพืชและศัตรูพืชแบบธรรมชาติ
  • สนับสนุนจากภาครัฐ : ภาครัฐควรสนับสนุนการทำเกษตร ZBNF ผ่านนโยบายและโครงการต่างๆ เช่น การจัดหาวัตถุดิบ การรับรองผลผลิต และการสร้างตลาดสำหรับผลผลิต
  • ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา : เพื่อปรับปรุงและพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและภูมิประเทศของประเทศไทย
  • สร้างเครือข่ายเกษตรกร : เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์

การทำฟาร์มแบบ ZBNF เป็นวิธีการทำเกษตรที่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร และสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพในระยะยาวและการปรับใช้ในบริบทที่แตกต่างกัน


อ้างอิง :

  • Application of Jeevamrit Improves Soil Properties in Zero Budget Natural Farming Fields
  • Economics of alternative models of organic farming: empirical evidences from zero budget natural farming and scientific organic farming in West Bengal, India
  • Sustainability and productivity on zero budget natural farming
  • Study of Zero Budget Natural Farming in Northern Raigad
  • Zero Budget Natural Farming: An Agricultural Revolution, Prospects and Problems
  • Determinants and Constraints for Adoption of Zero Budget Natural Farming (ZBNF) Practices
URL อ้างอิง:

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ