เดนมาร์กได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์และการจัดการปศุสัตว์อย่างยั่งยืน และยังเป็นประเทศที่มีส่วนแบ่งตลาดอาหารอินทรีย์มากกว่า 10% ของตลาดอาหารทั้งหมด โดยรัฐบาลเดนมาร์กได้ส่งเสริมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การผลิต การตลาด ไปจนถึงการบริโภค ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากนโยบายและการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพในหลายด้าน
การส่งเสริมด้านการผลิต
รัฐบาลเดนมาร์กได้กำหนดเป้าหมายที่ท้าทายในการเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ให้ได้ถึง 15% ของพื้นที่เกษตรทั้งหมดภายในปี 2030 เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เช่น
- การสนับสนุนทางการเงิน : มีการให้เงินอุดหนุนแก่เกษตรกรที่ต้องการเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด
- การวิจัยและพัฒนา : มีการลงทุนอย่างมากในงานวิจัยเพื่อพัฒนาเทคนิคและวิธีการทำเกษตรอินทรีย์ เช่น การพัฒนาพันธุ์พืชและสัตว์ที่เหมาะสมกับระบบเกษตรอินทรีย์
- การใช้เทคโนโลยี : เดนมาร์กนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการทำเกษตรอินทรีย์ เช่น
- การใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และหุ่นยนต์ : ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฟาร์มและการผลิต ตัวอย่างเช่น การใช้เซนเซอร์ IoT ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำและดิน รวมถึงการใช้หุ่นยนต์ในการจัดการพืชและสัตว์ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและเพิ่มความยั่งยืนในการผลิต
- ระบบรีดนมอัตโนมัติ (Automatic Milking Systems-AMS) ในฟาร์มโคนมอินทรีย์ : ระบบนี้ช่วยให้การรีดนมเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถรีดนมได้บ่อยขึ้นและเพิ่มปริมาณการผลิตนมต่อวัน อีกทั้งยังช่วยลดการใช้แรงงานคน
- การใช้เทคโนโลยีการหมุนเวียนพืช (Crop Rotation) : เป็นเทคนิคที่ช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและปรับปรุงคุณภาพดิน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการผลิต
- เทคโนโลยีไบโอรีไฟเนอรี่สีเขียว (Green Biorefinery Technology) : ใช้ในการสกัดโปรตีนจากหญ้าและพืชตระกูลถั่ว เช่น โคลเวอร์และอัลฟัลฟา เพื่อใช้เป็นแหล่งโปรตีนสำหรับสัตว์ปีกและสุกร ช่วยเพิ่มความยั่งยืนในการผลิตไข่และเนื้อสุกรอินทรีย์
การส่งเสริมด้านการตลาด
เดนมาร์กไม่เพียงแต่ส่งเสริมการผลิตเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์อินทรีย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การพัฒนาตลาดภายในประเทศ : มีการรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคผลิตภัณฑ์อินทรีย์ภายในประเทศ ผ่านการให้ข้อมูลและการสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภค
- การส่งออก : เดนมาร์กเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อินทรีย์รายใหญ่ โดยเฉพาะในตลาดยุโรป ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศและเกษตรกร
- การสร้างแบรนด์ : มีการพัฒนาแบรนด์อาหารอินทรีย์ของเดนมาร์กให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ เพื่อเพิ่มมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์
การส่งเสริมการบริโภค
เดนมาร์กตระหนักดีว่าการส่งเสริมการบริโภคเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์
- การให้ความรู้ : มีการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับประโยชน์ของอาหารอินทรีย์ต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเข้าใจและกระตุ้นการบริโภค
- นโยบายอาหารในโรงเรียน : มีการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบอินทรีย์ในอาหารโรงเรียน เพื่อสร้างความคุ้นเคยและนิสัยการบริโภคอาหารอินทรีย์ตั้งแต่วัยเด็ก
- นโยบายการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณะ : รัฐบาลเดนมาร์กได้นำนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างอาหารอินทรีย์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ (Public Organic Procurement Policies-POPPs) มาใช้ ซึ่งช่วยสร้างตลาดที่มั่นคงให้กับผู้ผลิตอาหารอินทรีย์
- การพัฒนาอาหารใหม่ : มีการพัฒนา "New Nordic Diet" ซึ่งเป็นรูปแบบการกินที่เน้นอาหารอินทรีย์และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความยั่งยืน สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการบริโภคอาหารลงได้ 15-25% แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการบริโภคอาหารตาม New Nordic Diet จะสูงกว่าการบริโภคแบบปกติประมาณ 16% แต่ก็มีความคุ้มค่าในแง่ของการส่งเสริมสุขภาพและความยั่งยืน
- การสร้างมาตรฐานและการรับรองผลิตภัณฑ์ : เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค เช่น
- มาตรฐาน EU Organic : เดนมาร์กปฏิบัติตามมาตรฐาน EU Organic ซึ่งเป็นมาตรฐานการเกษตรอินทรีย์ที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป
- ฉลาก Ø-mærket : เป็นฉลากรับรองผลิตภัณฑ์อินทรีย์ของเดนมาร์กที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
ความท้าทายและอนาคต
แม้ว่าเดนมาร์กจะประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ เช่น การรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการรักษาสมดุลระหว่างการเพิ่มผลผลิตกับการรักษาหลักการของเกษตรอินทรีย์
อย่างไรก็ตาม ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน เดนมาร์กมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นผู้นำในด้านนี้ต่อไปในอนาคต โดยอาจมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายที่เกิดขึ้น และขยายผลสำเร็จไปสู่ภาคส่วนอื่นๆ ของเศรษฐกิจ
ประสบการณ์และบทเรียนจากเดนมาร์กสามารถเป็นแบบอย่างให้กับประเทศอื่นๆ ในการพัฒนาภาคเกษตรอินทรีย์และการจัดการปศุสัตว์อย่างยั่งยืนต่อไป
อ้างอิง :
- www.semanticscholar.org/paper/06294ef82e0eb96112257c5b101aad82e7c92a5e
- www.semanticscholar.org/paper/0dfe5cd426028ee2abcb7602de6008daa9b6f2de
- www.semanticscholar.org/paper/50ed0f85fda7db0a8ab1620de689a50d013691d0
- www.semanticscholar.org/paper/6186774492cc7d8809425aec0a8af241b6783022
- www.semanticscholar.org/paper/85c21ba49f476a0166afde49e8438269bba7f7a4
- www.semanticscholar.org/paper/a2e11c68b10d677f960a44fe5ce9b9577f00329f
- www.semanticscholar.org/paper/a8963fd583503589eac1ecb1fbbd69e7fc7af55b
- www.semanticscholar.org/paper/aa5041d26f3fc8219c83ba448bc04f0b0c5a9dcd
- www.semanticscholar.org/paper/b0cca54f41af077a4050225c804c425b08dabbd1
- www.semanticscholar.org/paper/b64a4e1b376f78c23d8271fa9a4b25ec67ebf4d2
- www.semanticscholar.org/paper/d13fa07655699e7b3d1b3a274b9a5aebf953ca89
- www.semanticscholar.org/paper/da25f0493ee1f8938ad9462b99bb558adf92b822
- www.semanticscholar.org/paper/e9943bfdd426da993e9ac40f52b2235dd88560ae
- www.semanticscholar.org/paper/ecf58fb1d4d5e2f84035cd49300fddee26492c6b
- www.semanticscholar.org/paper/ff81ee38a8a33b6b3e06c773387b19a9b16180c5
- www.semanticscholar.org/paper/Increasing-organic-food-consumption-through-public-Nölting-Nymoen/ecf58fb1d4d5e2f84035cd49300fddee26492c6b
- www.semanticscholar.org/paper/New-tendencies-in-the-organic-food-market-Wier-Millock/681d5c8d4d5c6193aee816e8c0646b3a01c33676
- www.semanticscholar.org/paper/Role-of-public-organic-procurement-policies-in-the-Mikkelsen-Lundø/e9943bfdd426da993e9ac40f52b2235dd88560ae