ศาสตร์ของ ‘Satoyama Initiative’ วิถีเกษตรยั่งยืนในสังคมที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ
ภูมิทัศน์แบบซาโตยามะ
คำว่า ‘ซาโตยามะ’ (Satoyama: 里山) หมายถึง ภูมิทัศน์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างธรรมชาติและมนุษย์ เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างป่ากับเมือง
ภูมิทัศน์แบบซาโตยามะ มีทั้งนาข้าวที่เป็นอาหารของมนุษย์ ป่าไม้ที่เป็นเชื้อเพลิงและมีแมงอาศัยอยู่ มีทุ่งหญ้าซึ่งเป็นอาหารของวัว และมีดอกไม้ฤดูกาลหลายสีสันและเป็นภูมิทัศน์ที่ชาวญี่ปุ่นคิดถึง
รวมถึงซาโตยามะยังให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิดและสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในด้านศิลปะ วรรณกรรม และดนตรีของญี่ปุ่น เช่น ปรากฏในบทกวีไฮกุ ศิลปะหัตถกรรม และภาพยนตร์อนิเมะ
Satoyama Initiative
เพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง โครงการ Satoyama Initiative จึงเกิดขึ้น โดยมุ่งให้คนเห็นคุณค่าของธรรมชาติที่คนดูแลและใช้ประโยชน์ เช่น ป่าไม้รองหรือทุ่งหญ้า พร้อมพัฒนาวิธีให้ชุมชนชนบทอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุลผ่านความร่วมมือของกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น (MOEJ) และสถาบันการศึกษาขั้นสูงด้านความยั่งยืนแห่งมหาวิทยาลัยแห่งสหประชาชาติ (UNU-IAS) และถูกใช้ครั้งแรกในปี 2010 ตามภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (CBD COP 10)
ใจความสำคัญของ Satoyama Initiative คือ การทำให้สังคมมีความกลมกลืนกับธรรมชาติ ซึ่งหมายถึงชุมชนมนุษย์ที่การดูแลรักษาและพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสอดคล้องและสนับสนุนกระบวนการทางธรรมชาติ ผ่านการใช้และจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ สังคมมนุษย์ต้องหาวิธีที่จะเพลิดเพลินไปกับบริการของระบบนิเวศที่มีเสถียรภาพ และดำรงอยู่ต่อไปในลักษณะที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ
หลักการทำงานแบบ Satoyama Initiative
ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่
- รวบรวมภูมิปัญญา
การรักษาบริการและคุณค่าของระบบนิเวศที่หลากหลาย - บูรณาการความรู้
การผสมผสานภูมิปัญญาทางนิเวศศาสตร์ดั้งเดิมและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เพื่อส่งเสริมนวัตกรรม - สำรวจการร่วมบริหารจัดการ
การพัฒนาระบบการร่วมบริหารจัดการใหม่ๆ หรือกรอบการจัดการ ‘ทรัพย์สินส่วนรวม’ ขณะเคารพสิทธิการถือครองที่ดินของชุมชนดั้งเดิม
และดูเหมือนสิ่งที่น่าจะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด คือ การมองหาทรัพย์สินหรือพื้นที่ที่คนทุกคนจะใช้ประโยชน์ร่วมกัน หมายถึง แม้ว่าจะต้องสร้าง ‘ทรัพยากรส่วนรวม’ แต่ก็เคารพการถือครองที่ดินของชุมชนแบบดั้งเดิม ซึ่งไม่เพียงแต่รวมถึงเจ้าของที่ดินและผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฝ่ายต่างๆ ที่ได้รับประโยชน์จากบริการของระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องด้วย
กิจกรรมในภูมิทัศน์แบบซาโตยามะ
กิจกรรมหลักๆ ที่จะเกิดขึ้นในภูมิทัศน์แบบซาโตยามะ ส่วนใหญ่จะเป็นการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนในภูมิทัศน์และทะเลที่มีความสัมพันธ์กับระบบนิเวศทางสังคม (SEPLS) ผ่านการแบ่งปันความรู้และการสร้างความร่วมมือระดับโลก โดยมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การประชุมเชิงปฏิบัติการ การสร้างพันธมิตร และการสนับสนุนแนวทางการจัดการที่สร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์
ไม่ว่าจะเป็นการคงความหลากหลายทางชีวภาพด้วยการดูแลป่าแบบหมุนเวียน ส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น เทศกาลเกี่ยวกับการปลูกข้าวและพิธีกรรมในพื้นที่ Satoyama เพื่อรักษามรดกทางวัฒนธรรมและสร้างความผูกพันในชุมชน และยังจำเป็นต้องพัฒนาฐานข้อมูล จัดประชุมและเวิร์กช็อปเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภูมิทัศน์ Satoyama และบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ในวงกว้าง
กรณีศึกษาในประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย ก็มีโครงการฯ ที่ใกล้เคียงกัน นั่นคือโครงการเซ็นทรัลทำ ที่ดําเนินงานโดยมุ่งเน้นในการลดความเหลื่อมลํ้าให้โอกาสทุกคนในสังคม พัฒนาด้านการศึกษาสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ ส่งเสริมอาชีพคนพิการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้มั่นคง แบ่งปันความรู้ ทักษะต่างๆ สนับสนุนช่องทางการขายและสื่อสารทางการตลาด พร้อมการรักษาและดูแลสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่โลกสีเขียว ขับเคลื่อนทุกภาคส่วนสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน
โดยมีกรณีศึกษาสำคัญอย่าง วิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทา จังหวัดเชียงใหม่ มุ่งส่งเสริมการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ชุมชน ผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชน พร้อมกับการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมและความสมดุลทางธรรมชาติ
ท้ายที่สุด ภูมิทัศน์ซาโตยามะไม่เพียงเป็นการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย โครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลในระบบนิเวศและการพัฒนาชุมชน การร่วมมือและความเข้าใจในคุณค่าของธรรมชาติจะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโลกที่ยั่งยืนและเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับทุกคน
ข้อมูลอ้างอิง :
- https://satoyama-initiative.org/activity/
- https://satoyama-initiative.org/concept/satoyama-initiative/
- https://www.centraltham.com/th/about-us/our-commitments-and-achievements
- https://www.nippon.com/en/images/i00059/
- Ministry of the Environment, Government of Japan. The Satoyama Initiative: A Vision for Sustainable Rural Societies in Harmony with Nature. Tokyo: Nature Conservation Bureau, Ministry of the Environment, 2009.

