PET PARENT เพิ่มโอกาสธุรกิจกับเทรนด์รักสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงกลายเป็นหนึ่งในความนิยมของคนทั่วโลกที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ Pet Parent เป็นกระแสที่ต่อยอดธุรกิจให้ผู้ประกอบการทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าเติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจากอาหารสัตว์ โรงพยาบาลสัตว์ เทคโนโลยีเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงก็กำลังได้รับความสนใจและขยายตลาดเพิ่มขึ้นเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงได้แบบไม่ต้องกังวล
คาดการณ์ตลาดสัตว์เลี้ยง
- ในปี 2026 ตลาดสัตว์เลี้ยงทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 217,615 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะในประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4% มีมูลค่าตลาดประมาณ 66,748 ล้านบาท
- มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 75,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% จากปี 2566 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
- คนไทยมากกว่า 65% เลี้ยงสัตว์เหมือนลูก หรือเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัว 33% เลี้ยงไว้คลายเหงา และ 2% เลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยฮีลใจ
- ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ในบ้านมีแนวโน้มมีฐานะและเป็นกลุ่มลูกค้ามูลค่าสูง (High-Value Users: HVUs) โดย 65% เป็นกลุ่ม Pet Parent ที่มีพฤติกรรมเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก
Pet Parent คืออะไร
Pet Parent คือ ผู้เลี้ยงสัตว์ที่มอบความรักและความใส่ใจให้กับสัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวหรือเหมือนลูกของตนเอง ไม่เพียงแค่ดูแลในเรื่องพื้นฐานอย่างสุขภาพ โภชนาการ และการออกกำลังกาย แต่ยังใส่ใจพัฒนาการและคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงทุกด้าน ตั้งแต่เลือกอาหารที่มีคุณภาพ ใช้บริการดูแลเฉพาะทาง เช่น อาบน้ำ ตัดขน หรือการรักษาพยาบาล ไปจนถึงการเลือกซื้อของเล่นหรืออุปกรณ์เสริมที่ช่วยสร้างความสุขและพัฒนาการให้กับสัตว์เลี้ยง สะท้อนถึงการยอมทุ่มเททั้งเงิน เวลา และความรัก เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีชีวิตที่ดีที่สุด ปัจจุบันสัตว์เลี้ยงกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คนยุคใหม่และมีความสำคัญเทียบเท่าคนในครอบครัว
ทำไม Pet Parent จึงเป็นเทรนด์ที่นิยม
- ยืดหยุ่นด้านค่าใช้จ่ายและเวลา การเป็น Pet Parent สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ทั้งค่าอาหาร ค่าดูแล และค่ารักษาพยาบาล ไม่ต้องวางแผนระยะยาว สามารถทำงาน ท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้โดยมีทางเลือกในการฝากเลี้ยงกับโรงพยาบาลสัตว์หรือสถานที่รับเลี้ยงโดยไม่ต้องกังวล หรือสัตว์เลี้ยงที่ถูกฝึกสามารถอยู่บ้านเองได้ เมื่อเทียบกับการมีลูกภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสัตว์มีน้อยกว่าแน่นอน
- ค่านิยมการเป็นโสดมากกว่าการแต่งงานเพื่อมีลูก คนยุคใหม่มีค่านิยมที่เปลี่ยนไปคือ Child–Free การเลือกเป็นโสดและไม่มีลูก ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560-2564 กลุ่ม Gen Y อายุระหว่าง 22-42 ปี เลือกเป็นโสด ไม่สมรส และไม่มีลูกมากขึ้น จึงหันไปเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น
- สัตว์เลี้ยงช่วยให้สุขภาพใจดีขึ้น ผลงานวิจัยมากมายระบุว่า สัตว์เลี้ยงช่วยสร้างอารมณ์ด้านบวกและเยียวยาจิตใจได้ดี ทำให้มีรอยยิ้มและเสียงหัวเระ รู้สึกไม่เหงาหรือโดดเดี่ยว และบรรเทาความเครียด
คนแต่ละ GEN นิยมเลี้ยงอะไร
- Baby Boomer เลี้ยงสัตว์น้อยที่สุดจากทุกช่วงวัย
- Gen X เลี้ยงปลาและนกมากที่สุด
- Gen Y เลี้ยงแมวมากที่สุด
- Gen Z เลี้ยงสุนัขมากที่สุด
ช่วงเวลาของ Pet Parent ที่ต้องรู้
- ช่วงที่ 1 มองหาสัตว์เลี้ยง
ทั้งชนิดและสายพันธุ์ที่ชื่นชอบ ศึกษาวิธีการเลี้ยง ติดต่อซื้อกับฟาร์มหรือผู้นำเข้าสัตว์เลี้ยง เมื่อได้สัตว์เลี้ยงที่ชอบ เตรียมพร้อมด้วยการซื้อของใช้พื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็น - ช่วงที่ 2 ต้อนรับสมาชิกใหม่
ส่วนใหญ่สัตว์เลี้ยงในช่วงอายุ 0-3 ปีแรกจะมีค่าใช้จ่ายทั้งค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ ค่าเครื่องใช้ต่างๆ การพาสัตว์เลี้ยงไปฝึก ค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาล เช่น ค่าวัคซีน ทำหมัน ฯลฯ ค่ากินค่า เที่ยว ค่ากิจกรรมต่างๆ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50,000-200,000 บาทต่อปี - ช่วงที่ 3 อยู่เติมเต็มกันและกัน
เป็นช่วงเวลาการเติบโตของสัตว์เลี้ยง มีการใช้ชีวิตและมีกิจกรรมด้วยกัน มีการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง อาการเจ็บป่วย อาจมีประกันสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยง และการดูแลอื่นๆ ตามวัย - ช่วงที่ 4 บั้นปลายชีวิต
อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ช่วงนี้ต้องไปโรงพยาบาลบ่อยครั้งขึ้น ดูแลตามวัย และจัดกิจกรรมให้เหมาะสม ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับสุขภาพสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงเสียชีวิตอาจมีการจัดงานเพื่อระลึกถึง
บริการที่ผู้เลี้ยงสัตว์นิยมใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยง
- บริการอาบน้ำ ตัดขน สปา
- บริการรับฝากเลี้ยง
- บริการสระว่ายน้ำและสถานที่ออกกำลังกาย
โอกาสทางธุรกิจที่เติบโตตามเทรนด์ Pet Parent
- ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ อาทิ อาหารหลัก อาหารเสริม อาหารพรีเมียม ขนมสำหรับสัตว์ ฯลฯ
- ธุรกิจบริการสุขภาพสัตว์เลี้ยง เช่น โรงพยาบาลสัตว์ คลินิก ฯลฯ
- ธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น โรงแรมสัตว์เลี้ยง สปา อาบน้ำ ตัดแต่งขน ประกันภัย ฯลฯ
- ธุรกิจร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง อาทิ ของใช้ เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น ฯลฯ
เทคนิคสร้างแบรนด์ Pet Parent ให้สำเร็จ
- นำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจ เช่น วิธีดูแลสัตว์เลี้ยง สูตรอาหาร เคล็ดลับฝึกสัตว์เลี้ยง ฯลฯ
- ผลิตภัณฑ์และบริการต้องตอบโจทย์คนรักสัตว์เลี้ยง
- หน้าร้านต้องออกแบบโดดเด่นและมีความ Pet Friendly เพื่อเจ้าของและสัตว์เลี้ยง
- ร่วมมือระหว่างแบรนด์กับสัตว์เลี้ยง เช่น คอลแลปกับ Pet Influencer ระดมทุนช่วยสัตว์ไร้บ้าน ฯลฯ
- บริจาคสินค้าหรือให้บริการเกี่ยวกับสัตว์ เช่น บริจาคอาหารสัตว์ในศูนย์พักพิงสัตว์ไร้บ้าน ฯลฯ
แม้สุนัขและแมวจะเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม แต่เทรนด์การเลี้ยงสัตว์แปลก (Exotic Pet) ก็เริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น โดยแบ่งเป็น 6 ประเภท ได้แก่ กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน เช่น อีกัวน่า กิ้งก่า งู กลุ่มสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น กบโกไลแอท ซาลาแมนเดอร์ กลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น ด้วง แมงมุมทารันทูล่า กลุ่มสัตว์ปีก เช่น นกแก้วมาคอร์ นกเหยี่ยว กลุ่มปลาแปลก เช่น ปลาปักเป้าฟาฮากา หรือปลาเทพา และกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น แฮมสเตอร์ สุนัขจิ้งจอก เป็นต้น
ข้อมูลอ้างอิง :
- https://digimusketeers.co.th/blogs/trend-pet-parent
- https://knowledgeportal.okmd.or.th/article/6735c93e5a1cd
- https://zortout.com/blog/pet-parents-trend
- www.altv.tv/content/altv-news/66443a99a508167e2e0d876b
- www.amarintv.com/spotlight/business-marketing/43022
- www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1075465
- www.dataxet.co/insights/pet-parent-trend-business-growth
- www.longtunman.com/43464
- www.marketingoops.com/reports/behaviors/pet-parent/
- www.prachachat.net/d-life/news-1184805
- www.thansettakij.com/business/economy/613282

