สิงคโปร์ ต้นแบบการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบด้านการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ภายใต้นโยบายและโครงการที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่สิ่งแวดล้อม น้ำ อากาศ ไปจนถึงการจัดการขยะและของเสีย สิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการเป็นเมืองสีเขียวและยั่งยืน แม้จะมีข้อจำกัดด้านทรัพยากรธรรมชาติก็ตาม
การวางรากฐานนโยบายที่เข้มแข็งของรัฐบาลสิงคโปร์
จากการศึกษาของสถาบัน National University of Singapore's Lee Kuan Yew School of Public Policy ในปี ค.ศ. 2023 พบว่า สิงคโปร์ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศที่มีดัชนีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมสูงสุดในเอเชีย โดยมีคะแนนรวม 82.5 จาก 100 คะแนน ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากการวางรากฐานนโยบายที่เข้มแข็งของรัฐบาล และกำหนดบทลงโทษอย่างจริงจัง ผ่านตัวอย่างนโยบายสำคัญในแต่ละด้าน ดังนี้
1. การวางผังเมืองเพื่อความยั่งยืน
สิงคโปร์เริ่มต้นการพัฒนาจากการวางผังเมืองอย่างรอบคอบ โดย Urban Redevelopment Authority (URA) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดโครงสร้างและพื้นที่ใช้สอยในเมือง
- แผนแม่บทการพัฒนาเมือง (Singapore Master Plan)
แผนยุทธศาสตร์ระยะยาวที่กำหนดกรอบการพัฒนาและใช้ประโยชน์ที่ดินของประเทศสิงคโปร์นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1958 เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ครอบคลุมทุกด้านของการใช้ที่ดิน เช่น ที่อยู่อาศัย พื้นที่สีเขียว ระบบขนส่ง และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งปรับปรุงทุกๆ 5 ปี เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านประชากร เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม - การจัดสรรพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัย พื้นที่สีเขียว และโครงสร้างพื้นฐานอย่างสมดุล
เช่น การสร้างย่านที่อยู่อาศัยใหม่ใน Punggol ซึ่งผสมผสานพื้นที่อยู่อาศัยเข้ากับธรรมชาติ ประชาชนส่วนใหญ่ (กว่า 80%) อาศัยในที่อยู่อาศัยที่จัดสรรโดยรัฐบาล (HDB Flats)
2. การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างชาญฉลาด
ในอดีต สิงคโปร์ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ด้วยความพยายามและเทคโนโลยี สิงคโปร์สามารถเปลี่ยนน้ำเสียให้เป็นน้ำดื่มที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างโครงการที่ประสบความสำเร็จ เช่น
- โครงการ NEWater
เริ่มต้นในปี ค.ศ. 2003 ผลิตน้ำดื่มคุณภาพสูงจากการรีไซเคิลน้ำเสีย เทคโนโลยีการบำบัดน้ำของสิงคโปร์มีประสิทธิภาพสูงถึง 99.9% ในการกำจัดสิ่งปนเปื้อน ทำให้น้ำที่ผ่านการบำบัดมีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก ซึ่งครอบคลุมความต้องการน้ำถึง 40% ของประเทศในปัจจุบัน และตั้งเป้าขยายเป็น 55% ในปี ค.ศ. 2060 - เขื่อนมาริน่า (Marina Barrage)
สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมลดความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมได้ถึง 70% และช่วยขยายพื้นที่รองรับน้ำฝนเป็น 60% ของเกาะสิงคโปร์ กักเก็บน้ำจืดได้ 10,000 ล้านลิตร เทียบเท่ากับอ่างเก็บน้ำขนาด 4,000 สระว่ายน้ำโอลิมปิก พร้อมทั้งเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนและแหล่งท่องเที่ยว สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กว่า 1 ล้านคนต่อปี
3. การพัฒนาพื้นที่สีเขียว ผ่านแนวคิดมืองในสวน (City in a Garden)
สิงคโปร์เน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน มาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1967 โดยชูแนวคิดเมืองในสวน เพิ่มพื้นที่สีเขียวและอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชน
- แนวคิดเมืองในสวน
มีเป้าหมายเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนและดึงดูดนักท่องเที่ยว ตัวอย่างการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เช่น โครงการปลูกต้นไม้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 ปีละ 1 ล้านต้น ส่งเสริมให้ตึกสูงมีพื้นที่สีเขียว และปลูกต้นไม้ริมถนนกว่า 3 ล้านต้น รวมถึงฟื้นฟูแม่น้ำลำคลองในเมืองให้เป็นพื้นที่พักผ่อน - โครงการ Gardens by the Bay
ซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ. 2012 กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศ มีสวนแนวตั้ง (Supertrees) และพื้นที่สีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พบว่าพื้นที่สีเขียวในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 36% ในปี ค.ศ. 1980 เป็น 47% ในปี ค.ศ. 2020
4. การบริหารจัดการขยะ
สิงคโปร์มีเป้าหมายเป็นประเทศที่ปราศจากขยะ (Zero Waste) โดยเริ่ม Zero Waste Masterplan ในปี ค.ศ. 2019
- สิงคโปร์ใช้เทคโนโลยีในการจัดการขยะ
เช่น ศูนย์ Semakau Landfill ซึ่งออกแบบมาให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พบว่าอัตราการรีไซเคิลในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี ค.ศ. 2020 เป็น 55% ในปี ค.ศ. 2030 - NEWSand Initiative
เปิดตัวโครงการในปี ค.ศ. 2021 นำนวัตกรรมเข้ามาช่วยแปรรูปขยะเป็นวัสดุก่อสร้าง สามารถลดปริมาณขยะฝังกลบได้ถึง 40%
5. นโยบายอากาศสะอาด
สิงคโปร์ใช้ระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศ PSI (Pollutant Standards Index) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 พร้อมบังคับใช้กฎหมายควบคุมการปล่อยมลพิษอย่างเข้มงวด ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างนโยบาย ดังต่อไปนี้
- Green Plan 2030
ส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหัวลดลง 15% ในช่วงสามปีแรก ตามการศึกษาของ Environmental Research Institute 2023 - Action Plan for Clean Air
กำหนดมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศที่ครอบคลุม มุ่งลดมลพิษทางอากาศจากยานพาหนะโดยส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 ส่งผลให้ระดับ PM2.5 ในอากาศลดลง 25% นอกจากนี้ยังตั้งเป้าติดตั้งจุดชาร์จ 60,000 แห่ง ภายในปี ค.ศ. 2030 - กฎหมายหมอกควันข้ามพรมแดน (Transboundary Haze Pollution Act)
หลังจากลงนามเข้าร่วมในปี ค.ศ. 2014 พบว่าจำนวนวันที่เกิดหมอกควันรุนแรงลดลง 60% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนมีกฎหมาย โดยให้อำนาจรัฐในการดำเนินคดีกับบริษัทที่ก่อให้เกิดหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์ และกำหนดบทลงโทษสูงสุดถึง 2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับผู้ก่อมลพิษ
ทั้งหมดนี้คือนโยบายที่มีส่วนทำให้สิงคโปร์ก้าวขึ้นสู่ต้นแบบการพัฒนาเมืองโดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง ผลการสำรวจจาก Institute of Policy Studies, National University of Singapore เรื่อง Public Satisfaction with Environmental Policies 2023 เปิดเผยว่า
- 92% ของประชาชนพึงพอใจกับการจัดการสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล
- 89% รายงานว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้นจากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม
- 94% สนับสนุนวิสัยทัศน์ Singapore Green Plan 2030
ความสำเร็จของสิงคโปร์ คือตัวอย่างการพัฒนาประเทศภายใต้ข้อจำกัดทางด้านทรัพยากรธรรมชาติ เปลี่ยนจากประเทศที่มีพื้นที่จำกัดและทรัพยากรน้ำไม่เพียงพอ ให้กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่ทันสมัยและยั่งยืนที่สุดในโลก
ข้อมูลอ้างอิง :
- NEWSand - Reimagining Waste. www.nea.gov.sg/corporate-functions/resources/publications/books-journals-and-magazines/envision-lite/june-july-2020/newsand-reimagining-waste
- Our Key Targets for the Green Plan. www.greenplan.gov.sg/targets/
- Singapore: Lessons from a City in Nature. www.bloombergneweconomy.com/news/singapore-lessons-from-a-city-in-nature/
- Sustainable and Resource Efficient Singapore. www.nea.gov.sg/committee-of-supply-2022/integrated-sustainability-report-2020-2021/review-of-fy2020/ensuring-a-clean-and-sustainable-environment-for-singapore/sustainable-and-resource-efficient-singapore
- Sustainable Singapore Blueprint. www.clc.gov.sg/docs/default-source/books/ssbcombined-cover-text.pdf
- Transforming Singapore into a City in Nature. www.clc.gov.sg/docs/default-source/urban-solutions/urbsol19pdf/09_essay_transforming-singapore-into-a-city-in-nature.pdf

