High Line จากรางรถไฟเก่าสู่สวนสาธารณะที่มีชีวิต
รถยนต์ ผู้คน และอาคารที่สูงตระหง่าน คือ สัญลักษณ์ของ ‘นิวยอร์ก’ อีกหนึ่งหัวเมืองสำคัญของสหรัฐอเมริกา
แล้วในทิศตะวันตกของเมืองแมนฮัตตันมีสวน ‘High Line’ ขนาด 1.45 ไมล์ตั้งอยู่ พื้นที่ที่เคยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสถานที่พักผ่อนของคนเมือง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่นัดพบ ชมศิลปะ ออกกำลังกาย รวมถึงการเป็นพื้นที่สร้างสรรค์
High Line ในปัจจุบันจึงกลายเป็นสวนสาธารณะที่สะท้อนถึงพลังของชุมชนและศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่เมืองที่เคยถูกมองข้าม และเป็นสวนที่มีเอกลักษณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
อดีตรางรถไฟที่ถูกทิ้งร้าง
เดิม High Line เดิมคือรางรถไฟยกระดับที่สร้างขึ้นในปี 1930 และเริ่มใช้ขนส่งสินค้าตั้งแต่ปี 1934-1980 ส่วนใหญ่รถไฟที่ผ่านราง High Land จะขนส่งเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์นม และผลผลิตทางการเกษตรไปยังพื้นที่ต่างๆ บนฝั่งตะวันตกของแมนฮัตตัน โดยเฉพาะที่ Meatpacking District และโรงงานในเขตอุตสาหกรรม
แต่ในช่วง 1980 การขนส่งทางรถไฟเริ่มตกต่ำลงและถนนกลายเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เส้นทางรถไฟนี้ก็ถูกทิ้งร้างไปตามกาลเวลา หลายคนมองว่ามันเป็นเพียงโครงสร้างที่ไม่จำเป็นและควรถูกทุบทิ้งไป
ปี 1999 โจชัว เดวิด (Joshua David) และ โรเบิร์ต แฮมมอนด์ (Robert Hammond) ก็เปิดโครงการรณรงค์เพื่อรักษา High Line และเปลี่ยนแปลงรางรถไฟแห่งนี้ให้เป็นพื้นที่สาธารณะ ผ่านการร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Friends of the High Line การต่อสู้ของพวกเขากลายเป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เมืองที่เคยถูกมองข้าม
เริ่มออกแบบและฟื้นชีวิต
เมื่อโครงการ High Line ได้รับการอนุมัติ ก็เกิดความท้าทายขึ้น เนื่องจากจำเป็นต้องผสานโครงสร้างเดิมให้เข้ากับแนวคิดใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ชุมชน
ทางออกที่เป็นรูปธรรมที่สุด ก็คือ การจัดประกวดผู้ออกแบบสวนสาธารณะที่มีคนร่วมส่งแนวคิด มากถึง 720 แนวคิด 36 ประเทศทั่วโลก แล้วทีมออกแบบที่ชนะคือ James Corner Field Operations, Diller Scofidio + Renfro และ Piet Oudolf ซึ่งพัฒนา High Line ให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม เชื่อมโยงธรรมชาติและศิลปะเข้าด้วยกัน คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน มีทางเดินและพื้นที่สีเขียวที่ให้ผู้คนได้พักผ่อนและเพลิดเพลินกับธรรมชาติ
ขั้นตอนแรกผ่านไป การพัฒนา High Line ก็เริ่มขึ้นอย่างจริงจังในปี 2006 ใช้เวลาพัฒนาอยู่ 3 ปี จนปี 2009 ส่วนแรกของสวนสาธารณะ High Line ระหว่างถนน Gansevoort และ 20th Street ก็เปิดให้ประชาชนเข้าชม ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งชาวนิวยอร์กและนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว
ต่อมาในปี 2011 ส่วนที่สองระหว่างถนน 20th ถึง 30th ก็เปิดให้บริการ และในปี 2014 ส่วน Rail Yards ระหว่างถนน 30th ถึง 34th ก็เปิดให้ใช้งานได้ ในปี 2019 การก่อสร้างส่วนสุดท้ายของ High Line ที่เรียกว่า The Spur เสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
รวมถึงปี 2023 มีการเปิด High Line-Moynihan Connector ทางเดินที่เชื่อมสวนเข้ากับ Moynihan Train Hall ทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินทางไปยังจุดต่างๆ ของนิวยอร์กได้สะดวกขึ้น
การฟื้นฟู High Line ไม่เพียงแค่ทำให้พื้นที่นี้กลับมามีชีวิต แต่ยังเป็นตัวอย่างที่สำคัญของการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทิ้งร้างให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวและเป็นมิตรกับชุมชน ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงสวนสาธารณะ แต่ยังเป็นสถานที่ที่รองรับกิจกรรมทางสังคม เช่น การแสดงศิลปะและการจัดกิจกรรมชุมชน
สวนสาธารณะที่เชื่อมโยงเมืองอย่างยั่งยืน
แม้จะเริ่มต้นจากการเป็นเพียงสวนสาธารณะบนรางรถไฟเก่าๆ แต่ High Line เป็นมากกว่านั้น สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นแหล่งศิลปะและกิจกรรมสาธารณะที่มีบทบาทสำคัญในชุมชนและเมืองที่แออัด ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่เมืองที่มีจำกัด
ขณะเดียวกัน นอกจากจะเป็นสถานที่ให้ผู้คนได้มาเดินเล่นและพักผ่อนแล้ว ยังเป็นสถานที่สำหรับการจัดแสดงศิลปะ การแสดงสด และกิจกรรมชุมชนต่างๆ ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก
และที่สำคัญ คือ การออกแบบโครงสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หนึ่งในจุดเด่นของ High Line คือการนำโครงสร้างที่ถูกทิ้งร้างมาปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะ พื้นที่ของสวนถูกออกแบบให้สามารถจัดการน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการระบายน้ำฝนลงสู่แปลงต้นไม้ข้างทาง ซึ่งช่วยลดภาระของระบบระบายน้ำในเมือง
อีกทั้งยังมีการสร้างเครือข่ายผ่าน ‘High Line Network’ กลุ่มของโครงการที่นำโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้ใช้งานกลับมาใช้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ จัตุรัสกลางเมือง พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง หรือศูนย์ให้บริการทางสังคม โดยมีเป้าหมายให้เกิดการสร้างพื้นที่สาธารณะที่มีชีวิตชีวาและเท่าเทียมกันในทุกชุมชน
ยกตัวอย่างเช่น Atlanta BeltLine ในแอตแลนตา หรือ Memphis River Parks ในเมมฟิส ที่นำแนวคิดของ High Line ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของแต่ละเมือง
High Line ในวันนี้และอนาคต
ปัจจุบัน High Line เป็นสวนสาธารณะที่ยาวถึง 1.45 ไมล์ และเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุดในนิวยอร์ก ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสวนสาธารณะที่มีธรรมชาติสวยงาม เชื่อมโยงธรรมชาติ ศิลปะ และชุมชนเข้าด้วยกัน สร้างความยั่งยืนให้กับเมืองและช่วยให้ผู้คนได้สัมผัสกับวิถีชีวิตในมหานครนิวยอร์กในมุมมองที่แตกต่างจากเดิม
จากอดีตที่เคยถูกมองว่าเป็นโครงสร้างที่เก่าและไร้ค่า High Line กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่สามารถสร้างสิ่งใหม่ให้กับเมืองที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งยังเป็นเครื่องเตือนใจว่า พื้นที่ที่เคยถูกมองข้ามสามารถกลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าได้
High Line เป็นมากกว่าพื้นที่สีเขียวที่ตั้งอยู่บนรางรถไฟเก่า แต่เป็นโครงการที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังของชุมชนในการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ที่ถูกทิ้งร้างให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับทุกคน ความเชื่อมโยงและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในยุคที่เมืองมีความหนาแน่นมากขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง :
- edc.nyc/project/high-line
- Friends of the High Line. (n.d.). High Line Pocket Guide. The High Line. Retrieved from files.thehighline.org/pdf/high-line-map.pdf
- network.thehighline.org/about/
- www.nycgovparks.org/parks/the-high-line
- www.thehighline.org/programs/
- www.thehighline.org/history/
- www.thehighline.org/design/

